หนึ่งในความกังวลที่ทำให้ทาสแมวปวดหัว คือการที่เจ้านายตัวเก่าที่บ้านมักจะขู่เมื่อพบกับแมวตัวอื่นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าหากใครกำลังจะรับแมวใหม่เข้าบ้านแล้วยิ่งต้องคิดหนัก เพราะหากรับแมวใหม่มาเลี้ยง แต่ไม่รู้วิธีการทำให้เข้ากับแมวเก่าได้ ก็อาจจะมีเหตุการณ์วุ่นวายตามมาอย่างแน่นอน ก่อนนำแมวใหม่เข้าบ้าน ต้องพาไปตรวจโรคและตรวจร่างกายก่อน        การจะนำแมวเข้ามาเลี้ยงในบ้านนั้น สิ่งที่จำเป็นต้องทำอันดับแรกคือการพาน้องแมวตัวใหม่ไปเตรียมสุขภาพก่อน หากทาสแมวรับน้องแมวตัวใหม่มาจากฟาร์มหรือสถานเลี้ยงแมวที่ได้มาตรฐานก็อาจจะมีการตรวจสุขภาพและรับวัคซีนมาแล้ว แต่ถ้าหากน้องแมวตัวใหม่เป็นแมวจรจัดก็ควรจะนำน้องไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีนให้ครบถ้วนก่อน นั่นก็เพื่อสุขภาพของตัวน้องแมวตัวใหม่ และ มั่นใจว่าจะน้องจะไม่นำโรคมาติดต่อเจ้านายตัวเก่านั่นเอง เทคนิคพิชิตปัญหาน้องแมวตัวเก่าและน้องแมวตัวใหม่ตีกัน      เมื่อนำแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ แยกห้องเพื่อให้แมวตัวใหม่ปรับตัวกับที่อยู่ใหม่ และอย่าลืมเตรียมอาหาร น้ำ ที่นอน กระบะทราย และของเล่นอื่นๆ ไว้ด้วย ซึ่งในระยะนี้อาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์สำหรับการปรับตัว      หลังจากแยกแมวตัวใหม่ไว้ได้ 1 สัปดาห์แล้ว ขั้นต่อไปคือทำให้แมวตัวใหม่และแมวตัวเก่าคุ้นกลิ่นกัน โดยแปรงขนทั้งแมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่ด้วยแปรงอันเดียวกัน ให้มากินอาหารใกล้ๆ กัน แต่ยังไม่ต้องให้เจอหน้า โดยให้วางชามใส่อาหารไว้คนละด้านของประตูหรือเวลาที่พาแมวตัวใหม่ออกไปข้างนอก ให้นำแมวตัวเก่าเข้าไปสำรวจในห้องหรือพื้นที่ของแมวตัวใหม่ที่แยกไว้ แล้วแมวตัวเก่าจะค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับกลิ่นของแมวตัวใหม่      การให้แมวเก่าและแมวใหม่เจอหน้ากัน ไม่ใช่ว่าปล่อยให้แมวทั้ง 2 ตัวเผชิญหน้ากันโดยตรงแบบตัวต่อตัว แต่ให้ใช้วิธีนำแมวตัวใหม่ไว้ในกรง แล้วให้แมวตัวเก่าเข้ามาในห้องหรือใกล้ๆ กับพื้นที่ของแมวใหม่ ระหว่างนั้นเจ้าของก็คอยสังเกตปฏิกิริยาของแมวทั้งคู่      เมื่อให้แมวทั้งสองเจอหน้ากันแล้วให้ ถ้ามีการขู่หรือแยกเขี้ยวใส่กันเกิดขึ้น ให้แยกแมวทั้งคู่ออกจากกันก่อน แล้วค่อยอุ้มมาเจอหน้ากันใหม่ โดยแมวใหม่ต้องอยู่ในกรงตลอดทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีตัวใดตัวหนึ่งขู่หรือเริ่มเล่นด้วยกันบ้างแล้ว…

Read More

        สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นเลี้ยงแมวตัวแรก หรือมีลูกแมวตัวใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวแล้วล่ะก็ การเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับดูแลเค้า ก็จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่ดูแลน้องแมวตัวน้อยให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เร็วขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เค้ามีอารมณ์ที่สดใสแล้ว ยังช่วยให้ลูกแมวตัวน้อยของเรา กลายเป็นลูกแมว สุขภาพดี สามารถทานอาหาร พักผ่อน และขับถ่ายเป็นปกติ ให้คุณพ่อคุณแม่น้องเหมียวมือใหม่อุ่นใจได้นั่นเอง ข้อควรรู้ก่อนรับเลี้ยงแมว       หากรับเลี้ยงน้องแมวโตที่ยังไม่ได้ทำหมัน ควรพาพวกเค้าไปทำหมันให้เรียบร้อย แต่หากเป็นลูกแมว คุณต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงอายุที่เหมาะสม โดยสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงหรือสัตวแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการทำหมันเพิ่มเติมได้      หากต้องทำงานหรือมีตารางชีวิตที่วุ่นวาย ควรพิจารณาก่อนว่าจะสามารถแบ่งเวลามาดูแลเจ้าเหมียวได้หรือไม่ ทั้งเรื่องอาหารและการทำความสะอาด คุณจำเป็นต้องวางแผนการให้อาหารพวกเค้าอย่างเหมาะสม และต้องอย่าลืมแบ่งเวลามาเล่นหรือทำกิจกรรมกับพวกเค้าด้วย      เมื่อรับน้องแมวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแล้ว คุณจะกลายเป็นโลกทั้งใบของพวกเค้า และจำเป็นต้องดูแลรับผิดชอบพวกเค้าตลอดไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ทั้งนี้อายุขัยของแมวจะอยู่ที่ 12 – 20 ปี ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจรับเลี้ยงแมวจรจากศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้านหรือเก็บมาจากข้างถนน ควรพิจารณาให้ดีว่าพร้อมสำหรับความผูกพันและความรับผิดชอบระยะยาวนี้แล้วหรือยัง ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมสำหรับน้องแมว

Read More